หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
แชร์ประสบการณ์ บริจาคเลือดครั้งแรกที่ต่างประเทศค่ะ (เนเธอร์แลนด์)
กระทู้สนทนา
บริจาคเลือด
สุขภาพกาย
จิตอาสา
แม่บ้านต่างแดน
ชีวิตในต่างแดน
สวัสดีค่ะ วันนี้ไปทำความดีมาเลยอยากเอาประสบการณ์และเกร็ดความรู้มาแชร์ ยาวหน่อยนะคะ
สมัยอยู่เมืองไทยเราบริจาคเลือดประจำค่ะ นี่ก็ได้ 20ครั้งแล้ว แต่ช่วง5ปีหลังมานี่ เราไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วอะค่ะ
ย้ายมาอยู่ต่างประเทศก็เลยลืมคิดเรื่องนี้ไป คราวนี้นึกขึ้นได้ เลยไปลองหาที่บริจาคเลือดที่ประเทศที่เราอยู่ค่ะ
โดยที่ประเทศนี้ การรับบริจาคโลหิตไม่ได้ทำโดย สภากาชาด(Red Cross) แต่เป็นอีกองค์กรนึงที่ชื่อว่า Sanquin ค่ะ
ซึ่งการรับบริจาคเลือดของที่นี่ เริ่มต้นจากการที่คุณต้องมีวีซ่าระยะยาวอยู่ในประเทศ หรืออาศัยอยู่ที่ประเทศนี้ค่ะ
มาเที่ยวหรือมาอยู่ระยะยาว แต่ไม่มีวีซ่าพำนักไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ
ก่อนไปที่สถานบริจาคเลือดครั้งแรกต้องทำการนัดหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูลและเจาะเลือดทดสอบเบื้องต้นค่ะ (อยู่ประเทศนี้ทุกอย่างต้องทำการนัดหมายค่ะ)
ก็จะมีพวกคำถามเจาะลึกเรื่อง สุขภาพ ยา รอยสัก เจาะร่างกาย ตั้งครรภ์ เพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง และโรคติดต่อทั้งหลายเหมือนแบบฟอร์มที่เมืองไทยค่ะ
ข้อแตกต่างก็คือ คำถามเรื่องการออกนอกประเทศ ที่นี่จะถามละเอียดกว่า ว่าออกนอกไปไหนมาบ้าง ในระยะเวลาเท่าไหร่
การพบครั้งแรกจะยังไม่มีการให้เลือดค่ะ เพียงแต่ตรวจสอบ หากไม่มีปัญหาอะไร ภายใน1เดือน เราจะได้รับจดหมายส่งมาที่บ้าน ให้ไปบริจาคเลือดภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์หลังจากได้จดหมาย เราจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ภายในสองอาทิตย์ อันนี้ไม่ต้องนัดหมาย แต่ต้องไปเวลาที่เค้าเปิดทำการนะคะ
รอจนได้จดหมายมาแล้ว เราก็ไปบริจาคเลือดกันค่ะ
สถานที่รับบริจาคเลือดที่นี่มีอยู่เกือบทุกเมืองค่ะ เดินเข้ามาก็จะเจอแบบนี้
โต๊ะที่ให้กรอกเอกสารและนั่งพักผ่อนอยู่ที่เดียวกันค่ะ แบบสอบถามมีทั้งภาษาดัชท์และภาษาอังกฤษ
พบหมอค่ะ วัดความดัน ตรวจความหนาแน่นเม็ดเลือด สอบถามข้อมูลต่างๆ
ซึ่งที่นี่ใช้หน่วยซึ่งแตกต่างจากเมืองไทยในการวัดค่าความเข้มข้นของเลือดค่ะ ที่นี่ใช้หน่วย mmol/l (มิลลิโมล/ลิตร)
ผู้ชายต้องอยู่ระหว่าง 8.4 -12 ในการบริจาค และสำหรับผู้หญิงระหว่าง 7.8 -11
โดยที่เมืองไทยและสภากาชาดใช้หลักการตรวจค่าความเข้มข้นเลือดเป็น g/dL (กรัม/เดซิลิตร)
ซึ่งผู้ชายต้องมีมากกว่า 13 และผู้หญิงมากกว่า 12
ตรวจความเข้มข้นเลือดครั้งแรกเราไม่ผ่าน ได้แค่7 เจ้าหน้าที่ลองตรวจให้อีกครั้งได้ 7.8 พอดี คาบเส้น บริจาคได้ค่ะ
สำหรับการบริจาคเลือดที่นี่ ผู้บริจาคต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 65 ปี และมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม
โดยทุกครั้งจะบริจาคเป็นปริมาณ 500 ml ซึ่งปริมาณมากกว่าการจัดเก็บโดยสภากาชาดในเมืองไทยค่ะ
(เราว่าก็มีถุงเล็กสำหรับคนหนักน้อยนะ แต่ที่นี่ถุง500mlเป็นมาตรฐาน)
ผู้หญิงบริจาคได้ 3ครั้งต่อปี และผู้ชายได้ 4ครั้งต่อปีค่ะ
เสาสีดำที่เห็นนี่มีหลอดไฟอยู่ด้านบน ถ้าเลือดไหลออกมาน้อยๆ หรือช้าไป ไฟจะกะพริบเป็นสีแดงและส่งเสียงเตือนค่ะ
ที่นี่มีคนบริจาคพลาสมาเฉยๆเยอะกว่าคนบริจาคเลือดค่ะ บริจาคพลาสมาทำได้ทุกเดือนค่ะ
บริจาคเสร็จได้พวงกุญแจที่ระลึกมาด้วยค่ะ เป็นสัญลักษณ์กรุ๊ปเลือดเรา
เสร็จแล้วก็ออกไปกินขนม ขอซุปถ้วย ชา กาแฟและน้ำผลไม้ต่างๆได้ตามชอบค่ะ ขนมเยอะมากๆที่นี่
ปล. วันนี้เราไปบริจาคโดยที่ร่างกายไม่พร้อม เป็นลมเลยค่ะ ทั้งเวียนหัว ทั้งร้อนเหงื่อออกมากทั้งที่ในห้องกาศเย็น โดนเข็นเข้าห้องหมอ นอนพักอยู่ชั่วโมงนึงถึงได้รับอนุญาติให้กลับบ้านอะค่ะ
ปล.2 ข้อแตกต่างระหว่างกรุ๊ปเลือดกับจำนวนประชากรนะคะ
กรุ๊ปเลือด O+ A+ B+ AB+ O- A- B- AB-
ไทย 40.8% 16.9% 36.8% 4.97% 0.2% 0.1% 0.2% 0.03%
NL 39.5% 35.0% 6.7% 2.5% 7.5% 7.0% 1.3% 0.5%
*wikipedia
สุดท้าย อยากจะฝากว่า ใครอยู่ต่างประเทศเห็นความสำคัญของการบริจาคเลือดก็ลองหาข้อมูลในประเทศของคุณๆดูนะคะ
เราเชื่อว่าการให้นี้มีต่อชีวิตคนได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
โปรดบริจาคเลือดกรุ๊ป B ที่สภากาชาดไทยด้วยค่ะ
ต้องการเลือด GROUP B ไปบริจาคที่สภากาชาดไทยนะคะ ช่วยบริจาค หรือ ช่วยแชร์ ด้วยนะคะ ผู้ป่วยรอผ่าตัดหัวใจ ต้องการเลือดค่ะ ขอบคุณนะคะ
สมาชิกหมายเลข 1055913
ถ้าไม่รู้กรุ๊ปเลือด + ไม่เคยตรวจโรค สามารถไปบริจาคเลือดได้มั้ยครับ
บริจาคแล้วเราสามารถรู้กรุ๊ปเลือดตัวเองมั้ยครับแบบชัดเจนมีเอกสารยืนยัน หรือควรไปตรวจกรุ๊ปเลือดโดยเฉพาะ แล้วพวกโรคต่างๆต้องไปตรวจก่อนบริจาคมั้ยครับ
สมาชิกหมายเลข 5844538
แชร์ภาพเหรียญ/เข็มกาชาดสมนาคุณ สำหรับผู้บริจาคโลหิต
หลายท่านที่ขยันออกกำลังกายและมีสุขภาพแข็งแรง คงจะเคยร่วมบริจาคโลหิตกันบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ จขกท.ขอแชร์ภาพเหรียญ/เข็มกาชาดสมนาคุณที่มีค่ะ (เท่าที่หาเจอนะคะ) ทั้งนี้ เหรียญ/เข็ม
จินดาหรา
ดื่ม ‘ชา-กาแฟ’ ก่อนบริจาคโลหิตได้ไหม ?
ดื่ม ‘ชา-กาแฟ’ ก่อนบริจาคโลหิตได้ไหม ? การดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนไม่มีผลต่อการบริจาคโลหิต สามารถดื่มกาแฟดำหรือกาแฟใส่นมได้ในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อเอ่ยถึงเครื่องดื่มย
Dear Nostalgia
ร่วมสำรองเลือดคงคลัง เตรียมพร้อมช่วยเหลือ #ผู้ป่วย โรงพยาบาลในเขตชายแดน
จขกท.ไม่สามารถบริตาคเลือดได้ ขอมาช่วยประชาสัมพันธ์นะครับ ร่วมสำรองเลือดคงคลัง เตรียมพร้อมช่วยเหลือ #ผู้ป่วย.#ด่วน จากสถานการณ์กรณีที่มีการใช้อาวุธบริเวณชายแดน #สุรินทร์ #ศรีสะเกษ และ #อุบลราชธานี .#ศู
double two
ไปบริจากเลือดมาแล้ว มีจดมหมายมาที่บ้าน
ตามที่ท่านได้ไปบริจากเลือดให้กลับโรงพยาบาล นั้นได้ตรวจเลือดของท่านเรียบร้อยแล้ว พบว่าท่านสมควรได้รับการเจาะเลือดเพื่อตรวจช้ำ และยืนยันผลการตรวจ เป็นจดหมายส่งมาที่บ้านประมาณนี้ครับอยากทราบว่าเราจะเป็นโ
สมาชิกหมายเลข 8410047
"สภากาชาด" เปิดรับบริจาคเลือด วันละ 500 ถุง สำรองส่งไปพื้นที่สู้รบ
"สภากาชาด" เปิดลงทะเบียนรับบริจาคเลือด วันละ 500 ราย เพื่อสำรองคงคลังช่วยเหลือผู้ป่วย ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนบริเวณที่มีการใช้อาวุธ วันที่ 24 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภากาชาดไทย &
สมาชิกหมายเลข 8457357
ท่านใดที่ร่างกายแข็งแรง ขอเชิญชวนไปบริจาคเลือด เพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ รพ.เขตจังหวัดที่มีการประทะค่ะ
ได้รับข้อความเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือดสำรองไว้ใช้ จากกาชาด ตอนแรกตั้งใจจะไปวันแม่ อีกอย่างไม่ได้ไปบริจาคมา 6 - 7 เดือนแล้ว พอดีมีการผ่าตัดมา ก็เลยบริจาคเลือดไม่ได้ จากที่ไปประจำทุกๆ 3 เดือน และมีไปฉีดวั
กัมบอล
sms จากสภากาชาด เรื่องการบริจาคเลือด
ช่วงหลังมาไม่ได้รับ sms ว่า "โลหิตของคุณเป็นโลหิตที่มีคุณภาพ และได้ส่งต่อไปใช้รักษาผู้ป่วยแล้ว" อยากรู้มีใครไม่ได้รับบ้างไหมครับ แอบกังวลว่าไม่ได้โลหิตไม่ได้ถูกเอาใช้รึเปล่า เพราะก่อนหน้านี
บุรุษเหล็กซุปเปอร์แมน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บริจาคเลือด
สุขภาพกาย
จิตอาสา
แม่บ้านต่างแดน
ชีวิตในต่างแดน
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2.6 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
แชร์ประสบการณ์ บริจาคเลือดครั้งแรกที่ต่างประเทศค่ะ (เนเธอร์แลนด์)
สมัยอยู่เมืองไทยเราบริจาคเลือดประจำค่ะ นี่ก็ได้ 20ครั้งแล้ว แต่ช่วง5ปีหลังมานี่ เราไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วอะค่ะ
ย้ายมาอยู่ต่างประเทศก็เลยลืมคิดเรื่องนี้ไป คราวนี้นึกขึ้นได้ เลยไปลองหาที่บริจาคเลือดที่ประเทศที่เราอยู่ค่ะ
โดยที่ประเทศนี้ การรับบริจาคโลหิตไม่ได้ทำโดย สภากาชาด(Red Cross) แต่เป็นอีกองค์กรนึงที่ชื่อว่า Sanquin ค่ะ
ซึ่งการรับบริจาคเลือดของที่นี่ เริ่มต้นจากการที่คุณต้องมีวีซ่าระยะยาวอยู่ในประเทศ หรืออาศัยอยู่ที่ประเทศนี้ค่ะ
มาเที่ยวหรือมาอยู่ระยะยาว แต่ไม่มีวีซ่าพำนักไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ
ก่อนไปที่สถานบริจาคเลือดครั้งแรกต้องทำการนัดหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูลและเจาะเลือดทดสอบเบื้องต้นค่ะ (อยู่ประเทศนี้ทุกอย่างต้องทำการนัดหมายค่ะ)
ก็จะมีพวกคำถามเจาะลึกเรื่อง สุขภาพ ยา รอยสัก เจาะร่างกาย ตั้งครรภ์ เพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง และโรคติดต่อทั้งหลายเหมือนแบบฟอร์มที่เมืองไทยค่ะ
ข้อแตกต่างก็คือ คำถามเรื่องการออกนอกประเทศ ที่นี่จะถามละเอียดกว่า ว่าออกนอกไปไหนมาบ้าง ในระยะเวลาเท่าไหร่
การพบครั้งแรกจะยังไม่มีการให้เลือดค่ะ เพียงแต่ตรวจสอบ หากไม่มีปัญหาอะไร ภายใน1เดือน เราจะได้รับจดหมายส่งมาที่บ้าน ให้ไปบริจาคเลือดภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์หลังจากได้จดหมาย เราจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ภายในสองอาทิตย์ อันนี้ไม่ต้องนัดหมาย แต่ต้องไปเวลาที่เค้าเปิดทำการนะคะ
รอจนได้จดหมายมาแล้ว เราก็ไปบริจาคเลือดกันค่ะ
สถานที่รับบริจาคเลือดที่นี่มีอยู่เกือบทุกเมืองค่ะ เดินเข้ามาก็จะเจอแบบนี้
โต๊ะที่ให้กรอกเอกสารและนั่งพักผ่อนอยู่ที่เดียวกันค่ะ แบบสอบถามมีทั้งภาษาดัชท์และภาษาอังกฤษ
พบหมอค่ะ วัดความดัน ตรวจความหนาแน่นเม็ดเลือด สอบถามข้อมูลต่างๆ
ซึ่งที่นี่ใช้หน่วยซึ่งแตกต่างจากเมืองไทยในการวัดค่าความเข้มข้นของเลือดค่ะ ที่นี่ใช้หน่วย mmol/l (มิลลิโมล/ลิตร)
ผู้ชายต้องอยู่ระหว่าง 8.4 -12 ในการบริจาค และสำหรับผู้หญิงระหว่าง 7.8 -11
โดยที่เมืองไทยและสภากาชาดใช้หลักการตรวจค่าความเข้มข้นเลือดเป็น g/dL (กรัม/เดซิลิตร)
ซึ่งผู้ชายต้องมีมากกว่า 13 และผู้หญิงมากกว่า 12
ตรวจความเข้มข้นเลือดครั้งแรกเราไม่ผ่าน ได้แค่7 เจ้าหน้าที่ลองตรวจให้อีกครั้งได้ 7.8 พอดี คาบเส้น บริจาคได้ค่ะ
สำหรับการบริจาคเลือดที่นี่ ผู้บริจาคต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 65 ปี และมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม
โดยทุกครั้งจะบริจาคเป็นปริมาณ 500 ml ซึ่งปริมาณมากกว่าการจัดเก็บโดยสภากาชาดในเมืองไทยค่ะ
(เราว่าก็มีถุงเล็กสำหรับคนหนักน้อยนะ แต่ที่นี่ถุง500mlเป็นมาตรฐาน)
ผู้หญิงบริจาคได้ 3ครั้งต่อปี และผู้ชายได้ 4ครั้งต่อปีค่ะ
เสาสีดำที่เห็นนี่มีหลอดไฟอยู่ด้านบน ถ้าเลือดไหลออกมาน้อยๆ หรือช้าไป ไฟจะกะพริบเป็นสีแดงและส่งเสียงเตือนค่ะ
บริจาคเสร็จได้พวงกุญแจที่ระลึกมาด้วยค่ะ เป็นสัญลักษณ์กรุ๊ปเลือดเรา
เสร็จแล้วก็ออกไปกินขนม ขอซุปถ้วย ชา กาแฟและน้ำผลไม้ต่างๆได้ตามชอบค่ะ ขนมเยอะมากๆที่นี่
ปล. วันนี้เราไปบริจาคโดยที่ร่างกายไม่พร้อม เป็นลมเลยค่ะ ทั้งเวียนหัว ทั้งร้อนเหงื่อออกมากทั้งที่ในห้องกาศเย็น โดนเข็นเข้าห้องหมอ นอนพักอยู่ชั่วโมงนึงถึงได้รับอนุญาติให้กลับบ้านอะค่ะ
ปล.2 ข้อแตกต่างระหว่างกรุ๊ปเลือดกับจำนวนประชากรนะคะ
กรุ๊ปเลือด O+ A+ B+ AB+ O- A- B- AB-
ไทย 40.8% 16.9% 36.8% 4.97% 0.2% 0.1% 0.2% 0.03%
NL 39.5% 35.0% 6.7% 2.5% 7.5% 7.0% 1.3% 0.5%
*wikipedia
สุดท้าย อยากจะฝากว่า ใครอยู่ต่างประเทศเห็นความสำคัญของการบริจาคเลือดก็ลองหาข้อมูลในประเทศของคุณๆดูนะคะ
เราเชื่อว่าการให้นี้มีต่อชีวิตคนได้